เพราะเหตุใดเด็กไทยถึงต้องว่ายน้ำเป็น?
- ผลสำรวจของสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขทำเราทราบถึงอัตราการเสียชีวิตจากการจมน้ำตายของเด็กไทยที่สูงมาก ดดยในแต่ละปีจะมีเด็กเสียชีวิตจากการจมน้ำตายประมาณปีละ1500คน ซึ่งคิดเป็น47% ของเด็กที่เสียชีวิตในแต่ละปี อัตราส่วนของเด็กที่จมน้ำเสียชีวิตนั้นมีสูงกว่าเด็กที่เสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุเสียอีก มากไปกว่านั้น จากผลสำรวจระบุได้ว่าเด็กไทยไม่น้อยกว่า80% ว่ายน้ำไปเป็นและเด็กส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตนั้น มักจะจมน้ำตายในบริเสณรัศหมี 100เมตรรอบบ้านของตน ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายมาก ยากแก่การคาดเดาและยากต่อการป้องกัน กระทรวงสาธราณะสุขยังระบุอีกว่าถ้าปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไขโดยเร็ว ในปีพ.ศ. 2563 ยอดการจมน้ำตายจะพุ้งสูงถึง 17000คนต่อปีเนื่องจาก ปัจจุบันนี้ประเทศไทยมีเด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปีที่มีประมาณ 13 ล้านคน พบว่าว่ายน้ำเป็นเพียงร้อยละ 16 หรือประมาณ 2 ล้านคน ที่เหลืออีก 11 ล้านคนว่ายน้ำไม่เป็น และมีความเสี่ยงเสียชีวิตสูงหากตกน้ำหรือลงไปเล่นน้ำ
- เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่ประสบปัญหาน้ำท่วมอยู่ทุกๆปีโดยเฉพาะพ.ศ.2554 ที่ได้เกิดเหตุการมหาอุทกภัยขึ้น ที่น้ำได้ท่วมเข้ามาในกรุงเทพมหานคร และจากน้ำท่วมครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงปัญหาของระบบการศึกษาไทยโดยเฉพาะเรื่องของทักษะชีวิต (การว่ายน้ำเป็น) โดยมหาอุทกภับครั้งนี้ได้คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า800ศพ โดยร้อยละแปดสิบเสียชีวิตจากการจมน้ำ พอเรามาเปรียบเทียบสถิติของประเทศกับสถิติของกรุงเทพมหานครจะพบว่า คนกรุงเทพที่จมน้ำเสียชีวิตนั้นคิดเป็นแค่ร้อยละ 57.8 ซึ่งแตกต่างจากสถิติของทั่วประเทศอยู่มาก สิ่งนี้ได้บ่งบอกถึงความแตกต่างทางคุณภาพของการศึกษาและการเข้าถึงการศึกษา โดยถ้าหากคนไทยว่ายน้ำเป็นกันทุกคน ตัวเลขเหล่านี้ก็คงจะลดลงไปมาก
เพราะเหตุใดเด็กไทยถึงวว่ายน้ำไม่เป็น?
- เนื่องจากว่าในหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการระบุไว้ว่า "เล่นกีฬาไทย กีฬาสากลประเภทบุคคล ประเภทคู่ กีฬาประเภททีม อย่างน้อยหนึ่งชนิด" โดยไม่ได้ระบุอย่างใช้เจนว่าเด็กทุกคนต้องว่ายน้ำเป็น อีกทั้งปัจจุบันนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดได้เข้ามาจัดระบบและสร้างมาตราฐานหลักสูตรการเรียนการสอนว่ายน้ำอย่างจริงจังจึงทำให้เด็กบางคนที่เรียนว่ายน้ำแล้วไม่สำริตผล เกิดอาการถอดใจและเลิกเรียนไปในที่สุด
- โรงเรียนรัฐบาลส่วนใหญ่นั้นไม่มีสระว่ายน้ำ โรงเรียนที่มีสระว่ายน้ำส่วนก็เป็นดรงเรียนรัฐบาลที่มีชื่อเสียงหรือดรงเรียนเอกชนที่มีค่าธรรมเนียมการศึกษาสูง แต่อย่างไรก็ดี โรงเรียนเหล่านี้มีสระว่ายน้ำก็เหมือนไม่มี อย่างที่เราทราบกันดี บางห้องเรียนมีเด็กนักเรียนมากถึง60คน ซึ่งมีครูสอนว่่ายน้ำ2ท่านและมีเวลาแค่ประมาณี4-8คาบเรียนต่อปี คาบเรียนหละ50-60นาที ซึ่งถ้าหากคิดเอาเวลาเปลี่ยนชุดและอาบน้ำออกจะเหลือเวลาแค่ประมาณ30-40 นาทีเท่านั้นเอง ทั้งการขาดแคลนเรื่องของสถานที่และจำนวนนักเรียนที่มากเกินไปส่งผลให้เด็กไทยกว่า11ล้านคนว่ายน้ำไม่เป็น
- ประเทศไทยนั้นยังขาดในเรื่องของสระว่ายน้ำสาธารณะ ถ้าจะว่ายน้ำก็ต้องไปที่sport clubหรือ สระว่ายน้ำตามหมู่บ้านจัดสรร ซึ่งล้วนแต่มีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น ซึ่งสระว่ายน้ำสาธารณะนั้นอาจจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นให้คนสนใจการว่ายน้ำมากขึ้นก็เป็นได้ นอกจากจะไม่มีสระว่ายน้ำสาธารณะแล้ว แม่น้ำ ลำคลองต่างๆที่ประชาชนชาวไทยเคยลงไม่ว่ายน้ำเล่นในอดีต ก็สกปรกมากขึ้น ยิ่งทำให้ผู้คนไม่อยากที่จะลงไปว่ายน้ำเหมือนแต่ก่อน
- เวลา: เด็กไทยส่วนใหญ่ที่ว่ายน้ำไม่เป็นมีฐานะยากจน ซึ่งเวลาของเด็กกลุ่มนี้นั้นสำคัญมาก โดยเด็กกลุ่มนี้จะต้องช่วยเหลือบิดามารดาทำมาหากิน ไม่มีเวลาที่จะไปเรียนว่ายน้ำ และเด็กที่พอมีฐานะขึ้นมาหน่อย พอถึงวันหยุดถ้าไม่อยู่บ้านเล่นเกมส์แล้วละก็ ก็จะออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน น้อยคนนักที่จะชวนกันไปว่ายน้ำ อย่างมากก็แค่ลงไปเล่นกันในน้ำไม่ได้ว่ายจริงๆเสียอีก ปัญหาอย่างหนึ่งของการเรียนว่ายน้ำก็คือ เป็นการเรียนที่ค่อนข้างใช้เวลานานพอสมควรและต้องอาศัยความต่อเนื่องในการเรียนและฝึกซ้อมอีกด้วย
- ค่าใช้จ่าย: ค่าใช้จ่ายในการเรียนว่ายน้ำนั้นไม่ใช้ถูก มีทั้งค่าจ้างครูมาสอนครั่งหลายร้อยบาท ไหนยังจะมีค่าสระและค่าชุดอีก ผู้ที่มีฐานะทางการเงินไม่ค่อยดีส่วนมากจึงมองว่าว่ายน้ำเป็นสิ่งสิ้นแปลืองและไม่จำเป็น